พม่า วันเดียวก็เที่ยวได้
เอาล่ะสำหรับพม่า 1 Day Trip นี้ เป็นการเที่ยวเมืองหลวง นั่นคือเมืองย่างกุ้งนั่นเองการเดินทางไปพม่าทริปนี้ ไม่ใช่การไปพม่าครั้งแรกของผม บางท่านอาจจะสงสัยเหมือนผมว่าพม่ามีอะไรดี ทำบุญทำไมถึงต้องพม่า!! ได้ลองไปสักครั้งท่านจะเข้าใจว่าเป็นยังไง….
เริ่มต้นการเดินทางโดย นัดพบกันที่สนามบินดอนเมืองตอนตี 4 โดยครั้งนี้ผมเลือกเดินทางกับสายการบิน Thai Lion หลังจากนั้นเช็คอินที่เคาเตอร์ เรียบร้อยแล้ว เดินผ่าน Duty Free มานั่งรอขึ้นเครื่อง การเดินทางใช้เวลาประมาณ 1.30 ช.ม. หลังจากถึงพม่าแล้ว เดินผ่าน ตม.ชิวๆ และไปจุดนัดพบเลย โดยตลอดการเดินทางจะมีหัวหน้าทัวร์และไกด์ท้องถิ่นคอยดูแลเราตลอดทริป หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นรถบัส ลุยพม่ากันเลยยย…..^^
ที่แรกที่ไปคือ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง บอกได้เลยว่าสถานที่จริงสวยงามมากกว่าในภาพถ่ายแน่นอน หลังจากดื่มด่ำกับความสวยงามแล้ว ไกด์จะพาเราไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวเรา และยังมีเจ้าหน้าที่จะเป็นคนนำสวดมนต์ ไม่ต้องตกใจว่าเราจะสวดภาษาพม่าได้ไหม เพราะเขานำสวดเป็นภาษาบาลี เหมือนบ้านเรานี่หล่ะครับ
หลังจากสวดมนต์ ขอพรกันเรียบร้อย เจ้าหน้าที่มีเวลาให้เราประมาณ 45 นาที ให้เราได้เดินเก็บภาพความประทับใจ
และกราบไหว้พระขอพรตามจุดต่างๆ มีทั้งขอพรจากเทพประจำวันเกิด ขอพระจากยักษ์ แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะครับ ว่าที่นี่มีคนสมหวังค่อนข้างเยอะ ขออะไรไปต้องจำให้ได้ เดี๋ยวกลับมาแก้ไม่ตรงตามที่ขอไว้นะครับ
จากนั้นเข้าสู่ช่วงเวลาที่ทุกท่านต้องการ นั่นก็คือ Enjoy Eating อาหารพม่าถูกปากคนไทยแน่นอน โดยเฉพาะเมนูเป็ดปักกิ่ง และกุ้งมังกร โดยรวมถือว่าอาหารดีครับ
.
ตะลอน เอ้ยตะลุยกันต่อ กับเทพองค์ต่อไปที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดทางด้านความเร็วของคำอธิฐาน นั่นก็คือ เทพทันใจ นั่นเอง เทพองค์นี้ปัจจุบันนิ้วท่านเป็นทองคำแท้แล้ว ได้ข่าวมาว่าเมื่อก่อนเป็นปูนแล้วโดนคนไทยทำหักหลายรอบ เลยจัดเป็นทองซะเลย เคล็ดลับการอธิฐานคือขออย่างเดียวมั่นๆ แล้วท่านจะสมหวังครับ แล้วอย่าลืมไปขอพระเทพกระซิบด้วยนะ อยู่ฝั่งตรงข้ามเองครับ
.
เสร็จแล้วนั่งรถต่อไปอีกหน่อยก็จะถึงจุดสำคัญอีกหนึ่งจุดนั่นก็คือ พระนอนตาหวาน พระนอนตาหวานสมชื่อมากครับ ตาของพระพุทธรูปหวานปานน้ำผึ้งเดือน 9 คือตาหวานมากจริงๆ และอีกหนึ่งความแปลกคือ ระหว่างที่นั่งสวดมนต์ขอพร ถ้าสังเกตุที่ดวงตาของท่าน จะรู้สึกได้โดยประหลาดว่าท่านกำลังฟัง และยิ้มให้เราอยู่
.
สักการะพระนอนตาหวานเสร็จแล้ว มาถึงองค์ต่อไป บอกเลยว่าองค์นี้เป็นอีกองค์ที่ผมประทับใจกับพม่าทริปนี้มาก นั่นก็คือ พระงาทัตจี แปลว่า หลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5 ชั้น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้สักแกะสลักเป็นทั้งหมด จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง (สมัยมัณฑเลย์) สวยงามมากครับ อุ้ฟฟ ทางลงมีขนมหวานพื้นเมืองขาย อย่าไปลอง เอ้ย อย่าลืมไปลองกันนะครับ หุหุ
.
จากนั้นก็ไปวัดสุดท้ายคือ พระหินอ่อน ภายในวัดจะมีองค์พระทำมาจากหินอ่อนจะประดิษฐานอยู่ในตู้กระจกเผื่อควบคุมอุณหภูมิไม่ให้องค์พระแตก เราก็สักการะขอพรได้ตามอิสระเลยย แต่…….!!วัดนี้จะพบกลุ่มเด็กน้อยเอาตราชั่งมานั่งร้องเพลงเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ให้ทิปแก่น้องๆกัน จบจากวัดพระหินอ่อนแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่สนามบิน เป็นอันจบทริปพม่า 1 วันของเรา
ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปที่สบายๆ ชิวๆ เรื่อยๆ เหมาะสำหรับครอบครัว คู่รัก หรือจะมาคนเดียวก็ไม่เหงาแน่นอน เพราะเพื่อนร่วมทริปเราเยอะมาก คนพม่าก็เป็นกันเองเหมือนคนไทยเลย
……จบไปแล้วกับพม่า 1 วันใครสายบุญ ทริปนี้ต้องลอง
……………..ถ้ามีทริปต่อๆไป เราจะมาเล่าสู่กันฟังอีกแน่นอน:)
Mtravel